dark mode light mode Search
Search

Taste ในการฟังเพลงของพี่แว่น (ตอนที่ 2)

หลังจากพี่แว่นได้โควต้านักดนตรีเพื่อเข้ามาเรียนที่ ม.บูรพา คณะวิทยาศาสตร์ เอกวิทยาศาสตร์กายภาพ (เรื่องราว ม.บูรพาไว้เขียนแยก) พี่แว่นได้รู้จักกลุ่มเพื่อนใหม่ ซึ่งยังคบหายาวกันจนทุกวันนี้ครับ

หลังจากพี่แว่นได้โควต้านักดนตรีเพื่อเข้ามาเรียนที่ ม.บูรพา คณะวิทยาศาสตร์ เอกวิทยาศาสตร์กายภาพ (เรื่องราว ม.บูรพาไว้เขียนแยก) พี่แว่นได้รู้จักกลุ่มเพื่อนใหม่ ซึ่งยังคบหายาวกันจนทุกวันนี้ครับ

แน่นอนว่าการฟังเพลงของแต่ละคนนั้นก็ไม่เหมือนกันเอาซะเลย ที่ ม.บูรพานี้เอง พี่แว่นได้เปิดอีกโลกนึงในการฟังเพลง นั่นก็คือเพลงสากลนั่นเองครับ ในตอนปี 1 นั้นห้องแต่ละคนยังมีเครื่องเล่นเทปอยู่ครับ เลยมีการแลกเทปฟังกันสนุกสนานครับ

NU METAL

พี่แว่นเริ่มต้นได้เพื่อนใหม่ที่อยู่หอพักชาย 6 จากการที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์ Honda Dream ที่แปะสติกเกอร์วง “ดอนผีบิน” มาหลายคนครับ มันเริ่มต้นจากตรงนั้นเลย คนที่ไม่ค่อยได้ฟังเพลงไทยอินดี้ ก็เอามาแลกกับของพี่แว่นได้ครับ พี่แว่นได้เริ่มฟัง Deftone , Slipknot , Korn , Limpbizkit , Redhotchilipeppers , Coldplay , Oasis และอีกมากมายในช่วงนั้น ทำให้พี่แว่นได้รับประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงมากพอสมควร จนถึงขนาดจับกลุ่มกันไปเพื่อดูคอนเสิร์ต Redhotchilipeppers , Incubus และ Korn กันเลยทีเดียวครับ

Nu Metal กลายเป็นดนตรีกระแสหลักในช่วงนั้น พวกเราต้องหากางเกง Dickies แท้ๆ มาใส่ ไม่มีหรอกตามห้างร้าน มือหนึ่ง ต้องไปตามสะพานพุทธเพื่อหามือสองพร้อมกับหาเทปผีมาฟังครับ ซึ่งเทปผีจะเป็นเทปวงที่ไม่ค่อยมีตามชั้นวางเทปทั่วไป หน้าปกเป็นกระดาษถ่ายรูปมันๆ นั่นหละเทปผีของแท้ พี่แว่นได้ Slipknot มาม้วนนึง เป็นเพลงช่วงก่อนอัลบัม Iowa จะเดบิ้วครับ

ราคา 60 บาทที่สะพานพุทธ

มันจะมีอยู่ช่วงนึงที่พี่แว่นลงลึกไปสาย Metal หนักหน่วงอยู่ เริ่มจาก Speed Metal , Trash Metal Power Meatal แล้วลึกไป Black Metal อีก เรียกได้ว่าในหอพักพี่แว่นนี่ มีแต่เทปเพลงอย่างเดียวเลยครับ ช่วงมหาวิทยาลัยเป็นช่วงที่เหมือนได้ฟังเพลงเยอะขึ้นด้วยหละครับ เพราะได้ออกมาจากจังหวัดน่านและได้เห็นอะไรที่กว้างมากขึ้นครับ

แต่เรื่องราวในการฟังเพลงของพี่แว่นยังไม่จบแค่นี้นะครับ พี่แว่นได้ออกไปสู่โลกกว้างที่มากกว่า ม.บูรพา ซึ่งนั่นก็คือพี่แว่นโดนรีไทร์จาก ม.บูรพา แล้วพี่แว่นไปเรียนใหม่ที่ ม.รามคำแหง คณะสื่อสารมวลชน โทการโฆษณาในปี 2543 การเข้ากรุงเทพนั้น มันหมายถึงการที่จะได้ใกล้ชิดศูนย์กลางของวงการดนตรีของไทย สิ่งที่ไม่เคยทำก็กำลังจะได้ทำเช่นการตระเวนไปดูคอนเสิร์ตวงต่างๆ ที่เรารู้จักและฟังมาตั้งแต่มัธยมก็จะได้สัมผัสบรรยากาศแล้วครับ

ไว้พี่แว่นมาเขียนเรื่องเกี่ยวกับดนตรีตอนที่พี่แว่นอยู่กรุงเทพ รวมไปถึงว่าเข้าไปอยู่กับเพื่อนๆ ที่ทำเพลงได้ยังไงนะครับ อ่านเพลินๆกันนะครับ อย่าเบื่อกันก่อนหละครับ ฮาๆ

เส้นทางสายดนตรี กำลังจะเริ่ม

ตอนต่อไปในหมวดของ Music นะครับ
Total
0
Shares